ศ. 2513 เพื่อใช้แทนมาตราริกเตอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี พ. 2473 ขนาดของโมเมนต์ที่ได้จากการวัดคลื่นแผ่นดินไหว (Seismograph) จะถูกเปลี่ยนไปเป็นตัวเลขแมกนิจูด ด้วยการคำนวณกับสูตรมาตรฐาน ซึ่งผลสุดท้ายจะได้ค่าที่เรียกว่า โมเมนต์แมกนิจูด ที่เป็นหน่วยบ่งบอกขนาดการเกิดแผ่นดินไหว ที่แม้ว่าสูตรในการคำนวณจะต่างกัน แต่มาตราใหม่นี้ยังคงให้ขนาดของแผ่นดินไหวใกล้เคียงกับขนาดแผ่นดินไหวในมาตราริกเตอร์ แต่จะไม่เหมือนกับมาตราริกเตอร์เสียทีเดียวโยจะให้ขนาดที่ใกล้เคียงกับมาตราริกเตอร์เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขนาดหลาง (3-6) มาตรวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหว มีอะไรบ้าง?
0 " ก็ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว *สูตรหาขนาดแผ่นดินไหวของสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวฯ ใช้สูตร ML=log A_max – 2. 48 + 2. 76 log ∆ โดยส่วนของการลดทอน (Distance attenuation) ในสูตรนี้ คือ 2. 76 log ∆ นั้นไปเอาสูตรมาตราฐานสากลมาใช้เลย ยังไม่มีการปรับตัวเลขให้เข้ากับสภาพธรณีของไทย ค่าที่ได้จึงยังไม่เที่ยงตรงดีนัก **หมายเหตุ คำว่า "แมกนิจูด" ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมาตราเลย คำๆนี้เป็นคำขยายความ แปลว่า "ขนาด" ซึ่งชาลส์ ฟรานซิส ริกเตอร์ เป็นคนแรกที่นำมาใช้ วิธีใช้คำนี้ในประโยคเต็มๆคือ แผ่นดินไหวแมกนิจูด 5. 0 ตามมาตราอะไรก็ว่าไป
0-5. 9 ปานกลาง สร้างความเสียหายยับเยินได้กับสิ่งก่อสร้างที่ไม่ มั่นคง แต่กับสิ่งก่อสร้างที่มั่นคงนั้นไม่มีปัญหา 800 ครั้ง/ปี 6. 0-6. 9 แรง สร้างความเสียหายที่ค่อนข้างรุนแรงได้ในรัศมีประมาณ 80 กิโลเมตร 120 ครั้ง/ปี 7. 0-7. 9 รุนแรง สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงในบริเวณกว้าง กว่า 18 ครั้ง/ปี 8. 0-8. 9 รุนแรงมาก สร้างความเสียหายรุนแรงได้ในรัศมีเป็นร้อย กิโลเมตร 1 ครั้ง/ปี 9. 0-9. 9 'ล้างผลาญ' ทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีเป็นพัน กิโลเมตร 1 ครั้ง/20 ปี 10. 0 ขึ้นไป ทำลายล้าง ไม่มีบันทึกความเสียหายไว้ หายาก มาก (ไม่ทราบจำนวนครั้งที่เกิด) ข้อมูลเพิ่มเติม 1. จริงๆแล้วมาตราริกเตอร์(M l เอ็ม แอล)ก็ยังมีอยู่แต่คำที่เขาใช้สากลจะเรียกว่า Local magnitude แต่ด้วยความที่ว่ามาตรานี้มีข้อจำกัดมาก เช่น ตำแหน่งจุดเกิดกับเครื่องมือวัดต้องห่างกันไม่เกิน 1500กม (ตัวเลขไม่ชัวร์นะครับ แต่ประมาณนี้) ชนิดของ seismometer(เครื่องมือวัดแผ่นดินไหว) ที่ใช้ ฯลฯ และที่สำคัญคือข้อมูลจะใช้ได้ ค่าจะไม่เกิน 7 (ปล. วิกิพีเดียไทยไม่ถูกนะครับงานนี้) แต่มาตรานี้จะมีข้อดีในการใช้วัดแผ่นดินไหวระดับพื้นที่คือไม่ไกลจากจุดเกิด มากนัก 2. นายริกเตอร์และทีมงาน รวมไปถึงนักวิจัยคนอื่นๆ ก็เจอปัญหานี้ก็พยายามหาทางแก้ไขโดยพยายามหามาตราใหม่ๆเช่น Body wave magnitude:m b (เอ็มเล็ก ห้อย บีเล็ก) ที่คำนวณจากคลื่นตัวกลาง, Surface wave magnitude:M S (เอ็มใหญ่ ห้อยด้วย S) ที่คำนวณจากคลื่นพื้นผิว ฯลฯ แต่ก็ล้วนมีข้อจำกัดเรื่องความอิ่มตัวของการวัด สุดท้ายไปได้มาตราที่เรียกว่า Moment magnitude:M w มาตรานี้คำนวณจาก Focal machanism (หาคำไทยแปลยากครับ แต่รวมไปถึงโครงสร้างของแนวรอยเลื่อนที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว พลังงานที่ปล่อยออกมา ฯลฯ) ทำให้มาตรานี้แก้ปัญหาข้อจำกัดเรื่องการอิ่มตัวได้ 3.
6 (= (10 1. 0) (3 / 2)) ในพลังงานที่ปลดปล่อยออกมา และที่แตกต่างกัน 2 แมกนิจูด จะมีค่าเท่ากับพหุคณของ 1000 (= (10 2.
8 ที่เกิดขึ้นมาครั้งนี้ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลตามที่เป็นข่าว เนื่องจากประเทศเนปาลนั้น ต้งอยู่ที่ขอบรอยเลื่อนพอดี อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
2 มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น" เป็นต้น หรืออาจใช้ตัวย่อว่า M เฉยๆ ถ้ายังไม่รู้ว่ามาตราไหนแน่ เช่น M7. 2 ก็ได้ หรือจะใช้ภาษาไทยล้วนก็ไม่ผิด เช่น "เมื่อเวลา 09:38 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7. 2 มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น" อย่าบังอาจไปโกหกใครว่า มันเป็นมาตราริกเตอร์ เป็นอันขาด จนคุณแน่ใจว่าเค้าใช้ ML แน่ๆแล้ว เพราะมันอาจเป็น MS ก็ได้ หรือ MK Md ได้หมด คุณจะรู้ว่าเป็นริกเตอร์หรือไม่ก็ต่อเมื่อทางเอเยนต์ ระบุมาแน่ๆว่าเป็น ML ที่แย่กว่านั้น คนไทยจำนวนมาก ตัดคำว่า "ตามมาตรา" ออกไป อาจเพราะความสะดวกปาก คำว่าริกเตอร์สำหรับคนไทย เลยกลายเป็นเมตร เป็นกิโลกกรัม เป็นหน่วยแผ่นดินไหวไปซะงั้น เช่นที่ได้ยินจนชินหูว่า แผ่นดินไหว 7. 2 ริกเตอร์ ตัวเลขริกเตอร์ จัดอยู่ในระดับ ผลกระทบ อัตราการเกิดทั่วโลก 1. 9 ลงไป ไม่รู้สึก ไม่มี ไม่สามารถรู้สึก ได้ 8, 000 ครั้ง/วัน 2. 0-2. 9 เบามาก คนทั่วไปมักไม่รู้สึก แต่ก็สามารถรู้สึกได้บ้าง และตรวจจับได้ง่าย 1, 000 ครั้ง/วัน 3. 0-3. 9 คนส่วนใหญ่รู้สึกได้ และบางครั้งสามารถสร้างความเสียหายได้ บ้าง 49, 000 ครั้ง/ปี 4. 0-4. 9 เบา ข้าวของในบ้านสั่นไหวชัดเจน สามารถสร้างความเสียหายได้ ปานกลาง 6, 200 ครั้ง/ปี 5.
มาตราริกเตอร์ ( อังกฤษ: Richter magnitude scale) หรือที่รู้จักกันว่า มาตราท้องถิ่น ( อังกฤษ: local magnitude scale; M L) เป็นการกำหนดตัวเลขเพื่อบอกปริมาณของพลังงานแผ่นดินไหวที่ปลดปล่อยออกมาจากแผ่นดินไหวครั้งหนึ่ง มันเป็นมาตราส่วนเชิงลอการิทึม ฐานสิบ ซึ่งสามารถคำนวณได้จากลอการิทึมของแอมพลิจูดการสั่นของการกระจัดที่มีค่ามากที่สุดจากศูนย์บนเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวบางประเภท (Wood–Anderson torsion) ยกตัวอย่างเช่น แผ่นดินไหวที่สามารถวัดค่าได้ 5. 0 ตามมาตราริกเตอร์จะมีแอพลิจูดการสั่นมากเป็น 10 เท่าของแผ่นดินไหวที่วัดค่าได้ 4.
6 เท่า และการเพิ่มขึ้น 0. 2 แมกนิจูด หมายความว่าพลังงานจะปลดปล่อยออกมามากกว่าเดิมถึง 2 เท่า ตารางแสดงมาตราริกเตอร์และผลกระทบ โดยสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา [4] ตัวเลขริกเตอร์ จัดอยู่ในระดับ ผลกระทบ อัตราการเกิดทั่วโลก 1. 9 ลงไป ไม่รู้สึก ไม่มี ไม่สามารถรู้สึกได้ [5] 8, 000 ครั้ง/วัน 2. 0-2. 9 เบามาก คนทั่วไปมักไม่รู้สึก แต่ก็สามารถรู้สึกได้บ้าง และตรวจจับได้ง่าย 1, 000 ครั้ง/วัน 3. 0-3. 9 คนส่วนใหญ่รู้สึกได้ และบางครั้งสามารถสร้างความเสียหายได้บ้าง 49, 000 ครั้ง/ปี 4. 0-4. 9 เบา ข้าวของในบ้านสั่นไหวชัดเจน สามารถสร้างความเสียหายได้ปานกลาง 6, 200 ครั้ง/ปี 5. 0-5. 9 ปานกลาง สร้างความเสียหายยับเยินได้กับสิ่งก่อสร้างที่ไม่มั่นคง แต่กับสิ่งก่อสร้างที่มั่นคงนั้นไม่มีปัญหา 800 ครั้ง/ปี 6. 0-6. 9 แรง สร้างความเสียหายที่ค่อนข้างรุนแรงได้ในรัศมีประมาณ 80 กิโลเมตร 120 ครั้ง/ปี 7. 0-7. 9 รุนแรง สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงในบริเวณกว้างกว่า 18 ครั้ง/ปี 8. 0-8. 9 รุนแรงมาก สร้างความเสียหายรุนแรงได้ในรัศมีเป็นร้อยกิโลเมตร 1 ครั้ง/ปี 9. 0 ขึ้นไป 'ล้างผลาญ' ทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีเป็นพันกิโลเมตร 1 ครั้ง/20 ปี แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้น คือ แผ่นดินไหวใน ประเทศชิลี ที่เมือง วัลดิเวีย พ.