แต่ กรณีทำประกันชั้น 1 แต่ไม่ต้องถ่ายรูปรถ จะเป็นแบบการทำประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรกเอาไว้ ซึ่งบางบริษัทประกันภัย ก็จะยกเว้น ไม่ต้องถ่ายรูปรถ เพราะว่าเมื่อใดที่เราจะเคลมขึ้นมา เราก็ต้องเตรียมเงินเพื่อจ่ายส่วนแรกให้กับประกันร่วมด้วย รวมถึงกรณี ต่อประกันก่อนหมดอายุประกันเดิม แล้วมีหลักฐานแสดงในประกันภัยเก่าของเรา ก็สามารถใช้แทนการตรวจสภาพรถได้เช่นกัน (บางบริษัท) การตรวจสภาพรถ หลักๆแล้ว จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ… 1. ให้เจ้าหน้าที่ มาหาเรา = เพื่อขอทำการถ่ายรูปรถ – ตรวจสภาพรถ โดยเจ้าหน้าที่ จะโทรนัดหมายเราก่อนเข้าพบล่วงหน้า อย่างน้อย 1 วัน เราเองสามารถแจ้งวันเวลา และสถานที่ ที่เราสะดวกกับเจ้าหน้าที่ได้เลย โดยใช้เวลาในการถ่ายรูป ลอกเลขตัวถังเรา ไม่เกิน 15 นาทีโดยประมาณ ข้อเสียคือ – หากเจอเจ้าหน้าที่ ที่เข้มงวด รอยรถเรานิดๆหน่อยๆที่เรายังไม่ได้เคลม หรือคราบสกปรก จะถูกรีมาร์คไปด้วย เพราะแบบนี้แล้ว ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถ่ายรูปรถของเรา ควรตรวจสอบล้างรถหรือเตรียมรถขัดรอยให้เรียบร้อยก่อน เพราะถ้าหากประกันคุณหมดไปแล้ว จะมาขอเคลมกับประกันภัยที่ทำไม่ได้ 2.
ประกันรถชั้น 1 ทำไมต้องถ่ายรูปรถ! มือใหม่อย่างเราๆต้องรู้ หากทุกทีต่อแต่ประกันชั้น 2+ 3+ 3ธรรมดา หรือเพิ่งออกรถมาใหม่ ยังไม่เคยได้ต่อประกันชั้น 1 แบบปกติ ทำไม….
มือใหม่อย่างเราๆ ต้องรู้ หากทุกที ต่อแต่ประกันชั้น 2+ 3+ 3ธรรมดา หรือเพิ่งออกรถมาใหม่ ยังไม่เคยได้ต่อประกันชั้น 1 แบบปกติ ทำไม….
1. รูปหลังคารถ 2. รูปด้านหน้ารถเต็ม - เห็นด้านหน้าเต็ม - ฝากระโปรงรถ - เห็นกระจกหน้า - ป้ายทะเบียนรถ 3. รูปด้านหน้ารถมุมขวา - เห็นไฟหน้าและไฟตัดหมอก - ล้อแม็กซ์ 4. รูปด้านหน้ารถมุมซ้าย 5. รูปด้านท้ายรถ - เห็นด้านหลังเต็ม - เห็นประตูหลัง - เห็นกระจกหลัง 6. รูปด้านท้ายรถมุมขวา - เห็นไฟท้าย - กันชนด้านขวา 7. รูปด้านท้ายรถมุมซ้าย - กันชนด้านซ้าย 8. รูปด้านข้างรถด้านขวา - เห็นด้านขวาทั้งคัน - เห็นล้อและล้อแม็กซ์ 9. รูปด้านข้างรถด้านซ้าย - เห็นด้านซ้ายทั้งคัน 10. รูปใบพรบ. 11. รูปคอนโซลหน้ารถบริเวณคนขับ 12. รูปหน้าปัดรถ - เห็นเลขไมล์ - ต้องสตาร์ทเครื่องระหว่งถ่ายรูป 13. รูปเลขตัวถัง - ดูตำแหน่งจากเล่มทะเบียนรถ 14. รูปอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น - ถังแก๊ส - สเกิร์ตรถ 15. รูปยางอะไหล่ - ที่อยู่ใต้ท้องรถ หรือ ด้านหลัง 16. รูปใบทะเบียนรถ กรณีรถกะบะ รถกะบะที่ติดโครงหลังคาหรือโครงเหล็กต้องถ่ายรูปรถยนต์ให้เห็นโครงรถและภายในรถยนต์ด้วย จ่ายออนไลน์ จ่ายได้ทันทีและปลอดภัยด้วยวีซ่าหรือมาสเตอร์การ์ดของคุณ โทร 02-767-7777 จ่ายได้ด้วยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต โอนเงิน หรือผ่อน 0% 10 เดือน ชำระง่าย จ่ายได้ด้วยบัตรเครดิต/เดบิต หรือ ชำระเงินผ่านบัญชีธนาคาร
เรื่องที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Beam BioBeam ได้ออกมาโพสต์ข้อความเมื่อเจ้าตัวได้ทำการถ่ายภาพรถที่ทำผิดกฎจราจรพร้อมส่งไปให้ขนส่ง โดยระบุว่า นี่คือ ตัวอย่างของ งานพิเศษ พวก ล้อล้น ออกจากตัวรถ ควันดำ ไฟท้าย สีแฟนซี สีฟ้า สีม่วง... แค่ ถ่ายรูป ส่ง ขนส่ง 1584 ก็มีเงิน โอน เข้ามาให้ทีละ 150, 300 บ้าง รวม ๆ กันที่ทำมาก็ไม่ใช่น้อย ๆ นะ เดือนนึงก็หลักพันอยู่... แต่นี่ได้มาเป็นปีแล้ว ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน ดีกว่าพวกไม่ทำอะไร อวดโน่นอวดนี่ไปวัน ๆ ทั้งที่จริง ไม่มีจะแดก สภาพพพพ!!!! ติดตามข่าวสารทาง Line
แต่ กรณีทำประกันชั้น 1 แต่ไม่ต้องถ่ายรูปรถ จะเป็นแบบการทำประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรกเอาไว้ ซึ่งบางบริษัทประกันภัย ก็จะยกเว้น ไม่ต้องถ่ายรูปรถ เพราะว่าเมื่อใด ที่เราจะเคลมขึ้นมา เราก็ต้องเตรียมเงินเพื่อจ่ายส่วนแรกให้กับประกันร่วมด้วย – รวมถึง กรณี ต่อประกันก่อนหมดอายุประกันเดิม แล้วมีหลักฐานแสดงในประกันภัยเก่าของเรา ก็สามารถใช้แทนการตรวจสภาพรถได้เช่นกัน (บางบริษัท) การตรวจสภาพรถ หลักๆแล้ว จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ… 1. ให้เจ้าหน้าที่ มาหาเรา = เพื่อขอทำการถ่ายรูปรถ-ตรวจสภาพรถ โดยเจ้าหน้าที่ จะโทรนัดหมายเราก่อนเข้าพบล่วงหน้า อย่างน้อย 1 วัน เราเองสามารถแจ้งวันเวลา และสถานที่ ที่เราสะดวกกับเจ้าหน้าที่ ได้เลย โดยใช้เวลาในการถ่ายรูป ลอกเลขตัวถังเรา ไม่เกิน 15 นาทีโดยประมาณ ข้อเสียคือ – หากเจอเจ้าหน้าที่ ที่เข้มงวด รอยรถเรานิดๆหน่อยๆที่เรายังไม่ได้เคลม หรือคราบสกปรก จะถูกรีมาร์คไปด้วย เพราะแบบนี้แล้ว ก่อนเจ้าหน้าที่ จะมาถ่ายรูปรถของเรา ควรตรวจสอบ ล้างรถหรือเตรียมรถขัดรอยให้เรียบร้อยก่อน เพราะถ้าหากประกันคุณหมดไปแล้ว จะมาขอเคลมกับประกันภัยที่ทำไม่ได้ 2.