ควรปล่อยให้ดินนามีโอกาสแห้งสนิท เป็นระยะเวลานานพอสมควร และถ้าสามารถ ไถพลิกดินล่างขึ้นมาตากให้แห้งได้ก็จะดียิ่งขึ้น ถ้าดินเปียกน้ำติดต่อกันโดยไม่มีโอกาสแห้ง จะเกิดการสะสมของสารพิษ เช่น แก๊สไข่เน่า (ไฮโดรเจนซัลไฟด์) และกรดอินทรีย์ เป็นต้น ซึ่งถ้าสารเหล่านี้มีปริมาณมากก็จะเป็นอันตรายต่อรากข้าวได้ 2. ควรมีการหมักฟาง หญ้ารวมทั้งอินทรียวัตถุเพื่อให้สลายตัวสมบูรณ์ ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังการไถเตรียมดิน เพื่อให้ดินปรับตัวอยู่ในสภาพที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของข้าว และสามารถปลดปล่อยธาตุอาหารที่จำเป็นออกมาให้แก่ต้นข้าว 3. ดินกรดจัดหรือดินเปรี้ยวจัด มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างต่ำ (pH ต่ำกว่า 4. 0) ควรขังน้ำไว้อย่างน้อย 1 เดือนก่อนปักดำข้าว เพื่อให้ปฏิกิริยาต่าง ๆ ตลอดจนความเป็นกรดของดินลดลงสู่สภาวะปกติ และค่อนข้างเป็นกลางเสียก่อน ดินกลุ่มนี้ถ้ามีการขังน้ำตลอดปี หรือมีการทำนาปีละ 2 ครั้ง ก็จะเป็นการลดสภาวะความเป็นกรดของดิน และการเกิดสารพิษลงได้ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตของข้าวสูงขึ้น
อากาศ เมล็ดต้องการอากาศอ๊อกซิเจนเพื่อการเจริญของดินอ่อน 3. ความร้อนหรืออุณหภูมิ ความร้อนจะต้องพอเหมาะเมล็ดจึงจะงอกได้ 4. อาหารในเมล็ด คือเนื้อของเมล็ดจะต้องมีอย่างสมบูรณ์เพียงพอและเมล็ดต้องแก่เต็มที่ 5. ต้นอ่อนในเมล็ดไม่เป็นหมัน คือจะต้องแข็งแรงและยังมีชีวิตอยู่เมล็ด จึงจะงอกได้ 6. ไม่มีโรค รา หรือแมลงกัดกินไปบางส่วน ประโยชน์หรือข้อดีของการเพาะเมล็ด 1. เมล็ดหายาก มีน้อย ราคาแพง ควรเพาะเสียก่อนเพื่อไม่ให้ตาย 2. เมล็ดมีขนาดเล็ก เช่นเมล็ดผักกาด คะน้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ฯลฯ ถ้าปลูกเลยอาจไหลไปตามนา ไหลลงหลุมลึก ไม่งอกเสียหายได้ 3. การเพาะเมล็ดก่อน จะเปลืองเมล็ดน้อยกว่าใช้เมล็ดปลูกโดยตรง 4. การปลูกโดยการหว่านหรือหยอดหลุมลงในแปลงสิ้นเปลืองเมล็ดมาก ดูแลลำบาก เพราะที่กว้างมีโรคและศัตรูรบกวนมาก ต้นอ่อนถูกแสงแดด ลม ฝน อาจตายมากขึ้น 5. การปลูกโดยตรงด้วยเมล็ด ทำให้พืชผักโตช้า ไม่สม่ำเสมอเพราะงอกไม่พร้อมกันจัดระยะลำบาก โคนต้นลอย ถูกลมพัดล้มได้ง่าย อาจต้องซ่อมกันบ่อย ๆ 6. การปลูกด้วยต้นกล้า เราเลือกเอาต้นที่แข็งแรงไปปลูก จึงจัดระยะได้สวยงาม ดายหญ้า พรวนดิน และใส่ปุ๋ยได้ง่าย ไม่ต้องปลูกซ่อมบ่อยๆ 7. การปลูกด้วยต้นกล้า จะทำให้ต้นโตเร็ว และให้ผลผลิตสูงกว่า เช่น มะเขือ เป็นต้น การทดสอบความงอกของเมล็ด เมล็ดพืชหรือผักที่จะใช้ขยายพันธุ์ ควรเป็นเมล็ดที่ใหม่สะอาด เป็นเมล็ดที่สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่มีสิ่งเจือปนเช่น โรคและราต่าง ๆ และควรจะรู้อายุของการเก็บด้วย ซึ่งตามปกติบริษัทใหญ่ๆ มักจะพิมพ์ปีที่จะปลูกไว้บนซอง เช่น 2524 หมายถึงว่าเหมาะที่จะปลูกในปี 2524 แต่เพื่อความไม่ประมาทท่านควรจะทดสอบหาความงอกของเมล็ดเสียก่อน เพื่อมิให้เสียเงินค่าเมล็ด เสียเวลาในการเตรียมดิน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ วิธีทดสอบความงอกทำได้ง่าย ๆ คือ 1.