จัดลำดับชั้นความสำคัญ โครงร่างและรูปร่างของมายแมพหรือมายแมปปิ้งมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพในการนำไปใช้งาน 5. ใช้ตัวเลข ในกรณีที่เนื้อหามีลำดับเหตุการณ์มีลำดับที่ต้องเรียงต่อกัน จะต้องวางแผนการวาดแต่ละกิ่งให้สัมพันธ์สอดคล้องกับเงื่อนไขเวลาดังกล่าว อาจใช้ตัวเลขกำกับกิ่ง เช่น 1 สำหรับเหตุการณืแรก 2, 3, 4 สำหรับเหตุการณ์ต่อๆมา หรืออาจจะใช้วิธีกำกับในลักษณะอื่น เช่น เรียงลำดับกิ่งตามตัวอักษร การใส่วันที่หรือเวลาของเหตุการณ์ในแต่ละกิ่ง เพื่อให้เข้าใจได้ทันที ว่าเหตุการณืหรือเนื้อหาอันไหน เรียงลำดับสัมพันธ์กันอย่างไร 6. ปรับให้เป็นสไตล์ของตัวเอง เราจะจดจำได้มากขึ้นถ้าสร้างสรรค์สิ่งนั้นขึ้นมากับมือ สิ่งที่ควรระวังในการเขียน Mind Map สิ่งที่ควรระวังในการเขียน Mind Map มี 3 ประการ คือ 1. การเขียน Mind Map ที่ไม่ใช่ Mind Map ของแท้ ลองพิจารณารูปร่างเหล่านี้ ภาพด้านบนแสดงให้เห็นถึงการพยายามวาดมายแมพโดยที่ไม่เข้าใจพื้นฐานอย่างแท้จริง ดูเผิน ๆ ภาพเหล่านี้ก็น่าจะใช้การได้ แต่ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าภาพทั้งหมดละเลยต่อหลักการคิดแบบรัศมี "ก้อนความคิด"แยกตัวเดี่ยวๆไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาอื่นๆ ไร้การเชื่อมโยง ทําให้สมองไม่ได้ระเบิดความคิดอย่างต่อเนื่อง ตัดโอกาสทางการคิดที่มีประสิทธิภาพ ลองเปรียบเทียบกับมายแมพที่ถูกต้องตามหลักการข้างล่างนี้ดู 2.
ภาคตะวันออก
เริ่มวาดที่จุดกึ่งกลางของกระดาษ โดยการเริ่มต้นที่จุดกึ่งกลางจะทำให้สมองของเราเป็นอิสระ พร้อมที่แตกหน่อความคิดออกไปยังทุกทิศทางเรียงตามลำดับที่เราต้องการได้เลย 2. ใช้รูปภาพหรือวาดรูปประกอบ ทั้งนี้ รูปภาพมีความหมายนับล้านคำและยังช่วยให้เราได้ใช้จินตนาการไปในตัวอีกด้วย ภาพที่อยู่ตรงกึ่งกลางเราควรที่จะทำให้เด่น ดูน่าสนใจ จะช่วยทำให้เรามีจุดโฟกัสที่แน่นอน 3. ใช้ปากกาหลากหลายสี เพื่อสร้างความจดจำ สีสันและจินตนาการ โดยสามารถนำ ปากกาหลากหลายสี มาเติมแต่ง Mind Mapping ของเราให้ออกไปในรูปแบบที่ต้องการ ซึ่งสีจะทำให้สมองของเราได้ตื่นตัว สีสันจะทำให้ดูมีชีวิตชีวาน่าอ่านมากยิ่งขึ้น แถมการนั่งวาดภาพระบายสียังทำให้เราได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์ไปในตัวอีกด้วย 4. วาดกิ่งออกมาจากภาพตรงกลาง เพื่อเชื่อมโยง แล้วแตกกิ่งก้านสาขาออกมาตามที่สมองเราจะคิดได้ ต้องให้เส้นเชื่อมต่อกัน เพราะว่าสมองของมนุษย์ทำงานแบบเชื่อมโยงเข้าหากันเช่นกัน 5. วาดเส้นกิ่งให้โค้งดีกว่าวาดแบบเส้นตรง เพราะการวาดเส้นตรงมันดูน่าเบื่อและไม่น่าสนใจนั่นเอง 6. ใช้เพียงแค่คีย์เวิร์ดเท่านั้น เป็นคำสั้นๆ เพื่อแตกข้อมูลอธิบายเพิ่ม สำหรับเส้นกิ่งแต่ละเส้นควรใช้คำที่สั้นๆ หรือที่เป็นคีย์เวิร์ดเข้าใจง่าย เพราะการที่เราใช้คำที่เป็นคีย์เวิร์ดนั้น จะทำให้เราสามารถยืดหยุ่น Mind Mapping ได้ดียิ่งขึ้นและจำได้เร็วมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นจุดเด่นทำให้เราสามารถอ่านได้ง่าย ลองนำทริคที่แนะนำไปทำ Mind Mapping เพื่อเสริมข้อมูล ถือเป็นการจัดระเบียบและกระตุ้นสมองไปอีกทางหนึ่งอีกด้วย ขอบคุณที่มา: | LearnEducation
การทำมายแมพ หรือการเขียนมายแมพปิ้งที่ถูกต้อง ทำอย่างไร สอนวิธีทำมายแมพปิ้งง่ายๆ สวยๆ พร้อมรูปแบบตัวอย่างการเขียน Mind Map 1. ตั้งสติ คิดถึงประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่องนั้น ถามตัวเองว่า กำลังจะทำบันทึกเรื่องใด หรือกำลังพยายามจะแก้ปัญหาอะไร 2. วางกระดาษเปล่าในแนวนอน เพื่อเตรียมวาดภาพแก่นแกนสำหรับการทำมายแมพ ให้ปลดปล่อยจินตนาการ สร้างภาพให้เด่นชัด ทรงพลัง 3. วาดภาพแก่นแกนที่สื่อให้เห็นเป้าหมายไว้ตรงกลาง (ขนาดประมาณเหรียญ 10 บาทสำหรับกระดาษ A4) โดยไม่ต้องกังวลว่าจะวาดไม่ได้หรือไม่สวย รูปวาดจะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ส่วนรูปแบบ สีสัน และสัญลักษณ์จะทำให้มายแมพโดยรวมดูดีกว่าที่คิดไว้ 4. ใช้สีอย่างน้อย 3 สี ในการวาดภาพเน้นให้เห็นโครงสร้าง พื้นผิว รายละเอียดเพื่อให้มองได้ไหลลื่น สร้างภาพให้ชัดได้สะดุดตา ลองสร้างรหัสสีเพื่อแบ่งประเภทข้อมูลและเน้นย้ำถึงความสำคัญในแต่ละเรื่อง 5. เริ่มวาดเส้นหนาๆ ชิดติดกับภาพแก่นแกน ให้มีลักษณะโค้งเรียวตามธรรมชาติ เรียกว่ากิ่งแก้ว ซึ่งจะดูคล้ายกิ่งไม้กิ่งหลักๆที่รองรับกิ่งย่อยๆที่จะเกิดตามมา ขอย้ำว่าต้องลากเส้นกิ่งแก้วทุกเส้นต่อเชื่อมกับภาพแก่นแกน เพราะสมองทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมีการเชื่อมโยง 6.