อีเวนท์ 15 ต. ค.
ก่อนอายุ 60 ปีจะไม่ได้รับเงินสมทบจากรัฐ เนื่องจากรัฐต้องการให้เงินก้อนนี้เป็นเงินบำนาญสำหรับใช้จ่ายหลังเกษียณ และไม่สามารถขอรับเป็นเงินก้อนแบบ " บำเหน็จ " ได้เพราะหลักการของ กอช. ต้องการให้คนไทยมีเงินใช้ตลอดชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาการรับเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียวมีโอกาสหมดตั้งแต่เกษียณยังไม่ถึงปี จากการลงทุนกิจการด้วยเงินก้อนสุดท้าย แบ่งปันลูกหลาน หรือใช้จ่ายอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนทำให้ชีวิตหลังเกษียณเข้าสู่วังวนเกษียณจนอย่างที่ไม่ควรจะเป็น ตัวเลขที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน สะท้อนว่าการสะสมเงินในระยะยาว และวางแผนเกษียณตั้งแต่เนิ่นๆ แม้จะสะสมเป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่มากกว่า เพียงพอกับชีวิตวัยเกษียณที่มากกว่าด้วย กอช. เอาเงินไปทำอะไรบ้าง กอช. จะนำเงินสะสมของสมาชิกไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น พันธบัตร ตราสารหนี้ เงินฝาก ตราสารทุน(หุ้น) และอื่นๆ เพื่อให้เงินของสมาชิกงอกเงย โดยผลตอบแทนการลงทุนจะเป็นไปตามหน่วยลงทุน และมูลค่าตลาด ซึ่งรัฐบาลจะค้ำประกันผลตอบแทนให้สมาชิกที่ออมถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ ในอัตราไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนเฉลี่ย 7 ธนาคาร กองทุน กอช. อัพเดทสัดส่วนของประเภทหลักทรัพย์ที่ลงทุน เมื่อช่วงต้นปี 2563 ว่า เงินสะสมเงินสมทบจำนวน 6, 579 ล้านบาท มี มูลค่าเงินลงทุนสุทธิจําแนกโดยผู้ออกตราสารสูงสุด 5 อันดับ (เงินสะสมเงินสมทบ) ณ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ดังนี้ 1.
ทำความรู้จักกับ "กอช. " หรือ กองทุนการออมแห่งชาติ กับบทบาทและหน้าที่สร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับคนไทย "กลุ่มอาชีพอิสระ" และวิธีเข้าร่วมกองทุน กอช. "กองทุนการออมแห่งชาติ" หรือ "กอช. " เป็นหน่วยงานที่รัฐจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นกองทุนกลางที่ช่วยสนับสนุนการสะสมเงินเพื่อชีวิตวัยเกษียณของคนไทยที่ประกอบอาชีพอิสระ จัดตั้ง ตาม พ. ร. บ. เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนไทยทุกคน เข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐได้อย่างทั่วถึงและสร้างเงินบำนาญโดยสมัครใจ กอช. เปิดรับสมัครสมาชิกครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม พ. ศ. 2558 เป็นต้นมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ " คุณออม รัฐช่วยออม คุณได้บำนาญ " สำหรับกติกาในการออมเงินกับ กอช. นั้น ผู้สมัครจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 15-60 ปี มีอาชีพอิสระ เช่น ค้าขาย รับจ้างทั่วไป ขับรถรับจ้าง เกษตรกร รวมถึงนักเรียนนักศึกษา โดยปัจจุบัน กอช. มีสมาชิกรวม 2, 357, 993 คน หน้าที่ของ "สมาชิก กอช. " สมาชิกจะต้องส่งเงินสมทบสะสมขั้นต่ำ 1, 200 บาทต่อปี สูงสุดไม่เกิน 13, 200 บาทต่อปี โดยการส่งเงินสมทบแต่ละงวดไม่จำเป็นต้องเป็นจำนวนที่เท่ากัน แต่ไม่ต่ำกว่า 50 บาทต่อครั้ง เช่น เดือนมกราคม ส่งเงินสมทบ 300 บาท เดือนกุมภาพันธ์อาจจะส่งเงินสมทบ 100 บาท เดือนมีนาคมอาจจะส่งเงินสมทบ 200 บาท และเดือนอื่นๆ ต่อเนื่องไปในอัตราที่แตกต่างกัน แต่รวมกันไม่ต่ำกว่า 1, 200 บาทต่อปี หลักเกณฑ์การสมทบเงินสะสมของ กอช.
สยามรัฐออนไลน์ 16 ตุลาคม 2564 04:56 น. ประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว. ) ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส. อ. ท. ) หารือแนวทางการร่วมสนับสนุนทุนให้กับอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตั้งเป้า 3 ปี (ปีงบประมาณ 2565–2567) ลงทุนร่วมกัน 2, 000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ต. ค. 64 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว. ) โดยสำนักกลยุทธ์และพัฒนากองทุน และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส. ) โดย มูลนิธิกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม จัดการประชุมหารือแนวทางการส่งเสริม สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการพัฒนาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม โดยการจัดสรรงบประมาณผ่านกลไกกองทุนร่วมลงทุน หรือ Matching Fund ระหว่าง กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุนส่งเสริม ววน. ) ภายใต้การดำเนินการของ สกสว. และกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม ภายใต้การดำเนินงานของ มูลนิธิกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม ที่ร่วมจัดตั้งโดย ส. โดยการระดมทุนจากภาคเอกชนรายใหญ่ที่เป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรมเพื่อหนุน SMEs ให้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้เอง โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย รศ.
ร่วมลงทุนผ่านกองทุนจะได้มาจากการระดมทุนจากภาคเอกชนที่บริจาคเข้ากองทุนเป็นช่องทางหลัก ทั้งนี้ในระยะเริ่มแรกจะมีการสนับสนุนเงินงบประมาณจากภาครัฐและเอกชน ผ่านกองทุนส่งเสริม ววน. และกองทุนนวัตกรรมฯ ในสัดส่วน 50: 50 เป็นระยะเวลา 3 ปี ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณรวมไม่เกิน 2, 000 ล้านบาท ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 นี้ ตั้งเป้าการลงทุนร่วมกัน หน่วยงานละ 200 ล้านบาท ปีที่ 2 หน่วยงานละ 300 ล้านบาท และปีที่ 3 หน่วยงานละ 500 ล้านบาท ทั้งนี้ สกสว. ได้ตั้งคณะทำงานสนับสนุนกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม โดยมี รศ. ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. เป็นประธานคณะทำงาน เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของกองทุนนวัตกรรมให้บรรลุเป้าประสงค์ การประชุมหารือในวันนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาแนวทางปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อนำไปสู่การกำหนดหลักเกณฑ์ ข้อบังคับ การสนับสนุนทุนผ่านกองทุนส่งเสริม ววน. และ กองทุนนวัตกรรมฯ ตลอดจน แผนการทำงานร่วมกันระหว่าง สกสว. และ ส. ต่อไป
🌱🌱 พช. เมืองอ่างทอง เมืองแห่งความสุข พร้อมด้วยคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน ผนึกกำลังดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน "ฟ้าทะลายโจร ปลูกเดือนแม่ เก็บเดือนพ่อ" 🗓วันพฤหัสที่ 14 ตุลาคม 2564 เวลา 09. 00 น. 🌟นายสกล แก้วปวงคำ นายอำเภอเมืองอ่างทองพร้อมด้วย นายธนศักดิ์ นาเลิศ พัฒนาการอำเภอเมืองอ่างทอง นายสุทิน คงพละ กรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน นักวิชาการพัฒนาชุมชน และคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินอำเภอเมืองอ่างทอง ดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน "ฟ้าทะลายโจร ปลูกเดือนแม่ เก็บเดือนพ่อ" ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 4 ตำบลตลาดกรวด อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง กลุ่มเป้าหมายคือ คณะกรรมการและสมาชิก กองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 20 คน 🌟 การดำเนินโครงการในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป. ป. ส. )
ธนาคารทิสโก้ 2. กระทรวงการคลัง 3. ธนาคารธนชาต 4. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 5. ธนาคารแห่งประเทศไทย สมัครสมาชิก กอช. ต้องทำอย่างไร ประชาชนที่เข้าเกณฑ์ของ กอช. สามารถสมัครได้ฟรี และสามารถสะสมเงินผ่าน กอช. ได้ที่กรมบัญชีกลาง สำนักคลังจังหวัดทั่วประเทศ สถาบันการเงินชุมชนที่เข้าร่วม และเครือข่ายรับสมัครทั่วประเทศ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ. ก. ส. ) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส. ) เคาน์เตอร์เซอร์วิส ธนาคารกรุงไทย เทสโก้ โลตัส ธนาคารออมสิน ตู้บุญเติม ฯลฯ หรือใช้บริการ แอพพลิเคชั่น กอช. แอพฯ จากกองทุนการออมแห่งชาติโดยตรง ที่สามารถดาวน์โหลดผ่าน ระบบ iOS และ Android ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่มีบริการทั้งข่าวสารเกี่ยวกับ กอช. เช็คเงินสมทบได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงสามารถตัดเงินสมทบอัตโนมัติจากธนาคารต่างๆ เข้าสู่ระบบได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว ที่มา: กองทุนการออมแห่งชาติ
ได้ จะต้องไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญอื่น ๆ อย่าง กบข. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และประกันสังคม ยกเว้น ประกันสังคมตามมาตรา 40 ทางเลือก 1 สามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้ เนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิเงินชราภาพจากประกันสังคมอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่ตอนสมัคร กอช. ยังไม่ได้เป็นสมาชิกระบบบำเหน็จบำนาญที่ไหน แต่ต่อมาได้เข้าเป็นสมาชิกประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข. เงินที่เราได้ออมไว้ก่อนก็ไม่หายไปไหน เพียงแต่หากมีการออมเพิ่มเข้ามาใน กอช. ในช่วงที่มีสวัสดิการส่วนอื่นรองรับอยู่แล้ว ก็จะไม่ได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลเพิ่มนั่นเอง ช่องทางสมัคร สำหรับผู้ที่สนใจออมเงินกับ กอช. สามารถสมัครทุกขั้นตอนได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่น กอช. แบบที่ไม่ต้องใช้เอกสารเลยสักแผ่น หรือจะสมัครด้วยตัวเองผ่านจุดให้บริการต่าง ๆ ก็ได้ เช่น ธนาคาร ธอส., ธ. ก. ส., ออมสิน กรุงไทย หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิสและตู้บุญเติม สมัครเรียบร้อยแล้วก็เริ่มออมได้เลย ครั้งละอย่างน้อย 50 บาท รวมกันสูงสุดไม่เกิน 13, 200 บาทต่อปี โดยจะทยอยออมเป็นเดือน ๆ ไปก็ได้ หรือออมเป็นรายปีก้อนเดียวทีเดียวก็ได้ เงินที่ได้สะสม ในแต่ละปีก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย นอกจากนี้ ระบบของ กอช.